Categories
คำแนะนำสินค้า บทความ รายละเอียดสินค้า

มากกว่าแค่กำจัดวัชพืช

“พลาสติกคลุมดินกำจัดวัชพืช” เป็นมากกว่าแค่กำจัดวัชพืช ช่วยเพิ่มความสามารถในการใช้พื้นที่ๆ มีอยู่ แต่ยังไม่ถูกใช้งาน ได้อย่างคุ้มค่า ☘️

😎 วันนี้เราพาท่านไปดูโรงเรือนภายใต้แนวคิด “ทำงานครั้งเดียว” ตั้งแต่เริ่มต้น เป็นโรงเรือนที่มีการคิดคำนวณมาอย่างดีเยี่ยม สามารถใช้งานพื้นที่ในโรงเรือน ทั้งแนวตั้งและแนวราบได้เต็มพื้นที่ อีกทั้งยังดูแลรักษาง่าย มีความสวยงาม สามารถต่อยอดให้ลูกค้าเข้าเยี่ยมชมแล้วเกิดความประทับใจ

พลาสติกคลุมดินกำจัดวัชพืช คืออะไร?

🤔 เป็นผืนพลาสติกประเภทสาน(จักสาน) โดยใช้เส้นเทปทึบแสง เพื่อให้แสงไม่สามารถผ่านลงไปได้ และด้วยการจักสานนี่เองทำให้มีช่องว่างระหว่างเส้นเทป จึงมีคุณสมบัติที่น้ำสามารถซึมผ่านได้

ความสามารถในการกำจัดเกิดจากปัจจัยใดบ้าง?

🌱 เกิดจากความทึบแสง และความหนาแน่นในการทอ กล่าวคือ เส้นเทปที่ทึบแสงทำให้แสงผ่านลงไปไม่ได้ แต่แสงบางส่วนก็ยังสามารถผ่านได้ตามช่องว่างระหว่างเส้นเทปได้ อีกทั้งวัชพืชบางชนิดก็สามารถขึ้นได้แม้ไม่มีแสงหรือมีแสงเพียงเล็กน้อยก็สามารถเติบโตได้ ความหนาแน่นในการสานจะมาช่วยให้หน่อของวัชพืชเหล่านั้นแทรกตัวขึ้นมาได้ยากขึ้น

⭐ สำหรับท่านที่มีโรงเรือนแล้ว หรือกำลังมีแผนที่จะสร้าง จะทราบดีว่าการปลูกในโรงเรือนนั้นเรามักจะปลูกบนวัสดุอื่นที่ดินเดิมของพื้นที่นั้น เช่น กระถาง โต๊ะปลูก แปลงยก(raised-bed) เป็นหลัก

☀ จึงเป็นเหตุให้พื้นหรือฐานโรงเรือนไม่ถูกนำมาใช้เป็นเรื่องหลัก มักเป็นเพียงการปรับพื้นให้เรียบโดยดินเดิม หรือนำทราย หินกรวดเข้ามาช่วยปรับเพิ่ม และนานเข้าก็ไม่พ้นปัญหาวัชพืชตามทางเดิน ใต้โต๊ะปลูก

🪴 หากมองโดยรวมก็เป็นปัญหาเล็กๆ โต๊ะปลูกเราก็ยกขึ้นมาแล้ว หรือพื้นที่ปลูกเราก็กันส่วนไว้แล้ว แต่หากคิดอีกมุมหนึ่งเรากำลังมีปัญหากับ “การจัดการโรงเรือนในระยะยาว”

  • วัชพืชที่ขึ้นนอกบริเวณปลูก สุดท้ายเราก็ต้องลงแรงรื้อถอน
  • ระหว่างที่มีวัชพืช จะเป็นที่ซ่อนของแมลงนอกแปลงไหม?
  • นอกแปลงปลูกเราก็ยังต้องฉีดพ่นยา(หรือชีวภัณฑ์)กำจัดแมลงไหม?
  • วัชพืชรอบแปลงจะกินปุ๋ยเราแทนพืชหลักของเราไหม?

🌾 สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นต้นทุนแฝงเล็กๆ น้อยๆ เป็นปัญหาจุกๆ จิกๆ ที่ไม่ต้องนำมาคิดก็ได้

แต่การปูพื้นภายในโรงเรือนด้วยพลาสติกคลุมดินกำจัดวัชพืช ภายใต้แนวคิด “ทำงานครั้งเดียว” จะทำให้ปัญหาจุกจิกหายไปทันที

🌿 นอกจากช่วยแก้ปัญหาจุกจิกเหล่านั้นแล้ว เมื่อเรามีปูพลาสติก คลุมดินกำจัดวัชพืช ก่อนนี้พื้นที่เหล่านั้นอาจะเป็นเพียงทางเดิน หรือพื้นที่ใต้โต๊ะปลูกที่วัชพืชขึ้น ตอนนี้เราก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย

  • คำนวณการเทพื้นปูคอนกรีต 10 เซนติเมตร 
    • -ค่าปรับพื้น โดยรวมค่าแรงตารางเมตรละ 80-100 บาท
    • -ค่าคอนกรีต สเตรน 240 ตารางเมตรละ 160-180 บาท
    • -ค่าไวร์เมต ตร.ม. ละ 40-50 บาท
    • -ต้องติดตั้งโดยช่างที่มีอุปกรณ์
  • คำนวณใช้พลาสติกคลุมดินกำจัดวัชพืช
    • -ค่าปรับพื้น โดยรวมค่าแรงตารางเมตรละ 80-100 บาท
    • -ค่าพลาสติก ตารางเมตรละ 17-40 บาท
    • -สามารถติดตั้งพลาสติกได้ด้วยตนเอง

👍จะเห็นว่าการใช้พลาสติกคลุมดินกำจัดวัชพืชเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ ลดต้นทุนการสร้างโรงเรือนได้จริง ติดตั้งง่ายไม่ซับซ้อน และเมื่อมีการเปลี่ยนแผนหรือย้ายสถานที่ก็ยังสามารถถอดย้ายได้

🤙🏻โรงเรือนเป็นการลงทุน หากเดิมไม่มีแผนในส่วนของพื้นหรือฐานโรงเรือนอยู่แล้ว การลงทุนเพิ่มอีกเล็กน้อย แต่ช่วยขจัดปัญหาจุกจิกในระยะยาวก็เป็นสิ่งที่น่านำมาพิจารณา

🌵อีกทั้งการลงทุนพลาสติกคลุมดินกำจัดวัชพืชยังช่วยให้พื้นที่ๆ อาจเคยถูกมองข้ามไปถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ แม้แต่ใต้โต๊ะปลูกก็สามารถใช้งานได้

ปัจจุบันเรามีพลาสติกคลุมดินกำจัดวัชพืชตามความเหมาะสมอยู่ดังนี้

🍀 รุ่น UV ที่ความหนา 100-110 กรัมต่อตารางเมตร ให้ความ คุ้มค่าสูง ใช้งานกลางแจ้งได้ ทนต่อการเดินเหยียบย่ำเป็นอย่างดี 

🪴 รุ่น Super UV ที่มีความหนามากขึ้นมาอยู่ที่ 230-240 กรัมต่อ ตารางเมตร เพิ่มอายุการใช้งาน ความหนาแน่นสูง ลดปัญหาหญ้าขึ้นแทรก รับแรงกดทับได้ถึง 120 กิโลกรัมต่อตารางเมตร 

Categories
คำแนะนำสินค้า บทความ

วิธีการเลือกสี – แสลนกรองแสง

ทำไมเราจึงมีแสลน?🤔

คำตอบที่สามารถตอบได้ทันทีเลยคือ “บังแดด” หรือ “แสงมันมากเกินไป เราเอามากันแสง”😎

แต่ถ้าถามต่อว่า ทำไมแสลนมีหลายสีจัง มันต่างกันยังไง?🌱

คำตอบที่ได้จะเริ่มคลุมเครือ และเริ่มเป็นคำตอบเชิงอารมณ์มากกว่าเหตุปัจจัยจริงๆ เช่น “สีนี้มันสวยดี” “สีนี้เหมาะเข้ากับตัวบ้านดีนะ”

☘️บทความนี้จะพาท่านไปหาเหตุและผลต่างๆสำหรับการเลือกใช้แสลนกรองแสงตามหลักวิชาการ ความต้องการของพืช และวิธีการรู้ความต้องการเบื้องต้นของพืช

ก่อนจะพาไปในเรื่องราวที่ลึกกว่านี้ เราต้องเข้าใจเรื่องของแสงแบบเบื้องต้นกันก่อน 😤
1.แสงที่เราเห็นเกิดจาก แสงไปกระทบวัตถุต่างๆ แล้วสะท้อนเข้าตาเรา
2.แสงที่เราเห็นเกิดจาก แสงหลายๆสีผสมกันอยู่ แบ่งเป็นแม่สีได้ดังนี้ แสงสีแดง แสงสีเขียว แสงสีน้ำเงิน

ต้นไม้เห็นแสงเหมือนกับที่เราเห็นไหม?☘️

คำตอบ คือ ไม่ ต้นไม้ไม่ได้เห็นแสงเหมือนกับเรา โดยเราสามารถสังเกตง่ายๆนั้น คือ ใบของต้นไม้ที่เราเห็นเป็นสีเขียว เกิดจากใบของต้นไม้ดูดซับแสงสีอื่นๆเข้าไปหมด ยกเว้นแสงสีเขียว

เราจึงเห็นสีเขียวที่ใบไม้สะท้อนเข้าตาเรา🧐

เรามาดูหลักการเบื้อนต้นของแสลนกันบ้าง

🌤 แสลนกรองแสง – ลดแสง หรือจะเรียกชื่อว่าอะไรก็แล้วแต่ หลักการจริงๆที่เราใช้ คือ หลักการของ “เงามัว : Penumbra” ทั้งหมด ซึ่งการเกิด “เงามัว” ของพลาสติกแต่ละอย่างจะไม่เหมือนกัน เช่น

1.แผ่นฟิล์มกรองแสง ☂️ (นิยมใช้ในวงการยานยนต์) ซึ่งจะเกิดเงามัวเท่ากันทั้งหมดในพื้นที่ของฟิล์ม ตัวฟิล์มมีลักษณะไม่ทึบแสง เพื่อให้แสงผ่านตามปริมาณที่กำหนด (Light Transmission Ratio)

2.แสลนกรองแสง ☔️ (นิยมใช้ในวงการก่อสร้าง และการเกษตร) เกิดจากเส้นเทป(หรือด้าย)ที่มีลักษณะทึบแสงกว่ามากเมื่อเทียบกับประเภทฟิล์ม จากนั้นทำให้เกิดเงามัวจากการ “ถัก” หรือ “ทอ” โดยวางระยะเส้นเทปตามที่กำหนด เพื่อบีบปริมาณแสงตามที่ต้องการ

🌓 สัดส่วน หรือเปอร์เซ็นต์การกรองแสงของแสลน คืออะไร?

คือสัดส่วน ของแสงที่กรองไว้โดยเทียบจากแสลนสีดำเป็นหลัก เช่น กรองแสงสีเทา-เงินที่เราใส่สารเพิ่มการสะท้อนแสงในเส้นเทป แม้ว่าจำนวนเส้นเทปต่อตารางนิ้วจะเท่ากันกับสีดำ สีเทา-เงินย่อมปล่อยแสงผ่านมากกว่าสีดำ เป็นต้น

เช่นเดียวกันกับแสลนสีอื่นๆ เช่น สีขาว หรือสีเขียว เนื่องจากเส้นเทปของสีเหล่านี้ไม่ทึบแสง 100% จึงทำให้แสงบางส่วนผ่านเส้นเทปเข้าไปได้มากกว่าสีดำ และสีของแสงก็ถูกเปลี่ยน(ดูดกลืน และสะท้อน)ไปตามสีของแสลนนั้นๆ

การเลือกซื้อแสลนสีเขียว

สีเขียวเป็นสีที่มีผลต่อพฤติกรรมของพืชเด่นชัดที่สุด โดยอาศัยการอธิบายจากสีของใบไม้ ที่ดูดกลืนแสงสีอื่นๆเข้าไปหมด แล้วสะท้อนแสงสีเขียวเข้าตาเรา

นั้นหมายความว่า ใบของพืชจะใช้ประโยชน์จากแสงสีอื่นๆ การที่เราเปลี่ยนสีของแสงให้เป็นสีเขียวนั้น ทำให้พืชได้ประโยชน์น้อยลงจนถึงไม่ได้เลย และเพื่อให้ตนเองรอด พฤติกรรมของต้นไม้จึงทำการยึดตัวเองเพื่อหาแสงให้ได้มากขึ้น พืชที่อยู่ใต้แสลนสีเขียวนานๆ จะมีลำต้นยืดหรือแขนงต่างๆยื่นเข้าหาแสงที่ยาวกว่าปกติ

🐠 แสลนสีเขียวเหมาะสมกับงานที่ต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมของพืช เหมาะกับบ่อน้ำ บ่อเลี้ยงกบ หรือสระน้ำที่ต้องการลดการเกิดของตะไคร่น้ำภายในบ่อ 🐸

การเลือกซื้อแสลนสีแดง และสีน้ำเงิน(ฟ้า)

เป็นสีของแสงที่พืชใช้ประโยชน์ได้ทั้งพืชใบ และพืชผล ซึ่งแต่ละสีจะมีคุณสมบัติเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมพืชที่ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับพืชชนิดนั้นๆอีกทีหนึ่ง เช่น พืชผลบางประเภทที่ใช้แสลนสีแดงจะมีพฤติกรรมติดดอกมากกว่าปกติ หรือพืชใบที่ใช้แสลนสีน้ำเงินจะทำให้ใบมีสีเข้มขึ้นมากกว่าปกติ เมื่อเทียบการใช้แสลนสีดำในสัดส่วนที่เท่ากัน

🦗นอกจากพืชแล้วแสลนสีต่างๆยังมีผลต่อแมลงด้วย เช่น สีแดง หรือสีเหลืองที่ส่งผลให้แมลงบางชนิดมีการตาบอด ไม่สามารถเข้าใกล้หรือเข้าในบริเวณที่ใช้แสลนสีดังกล่าวได้🐞

การเลือกซื้อแสลนสีเทา-เงิน และสีขาว ☀️

⛅️เป็นสีกลางๆที่ไม่เปลี่ยนแปลงสีของแสงจนมีผลต่อพฤติกรรมของพืช ประโยชน์ของแสลนกลุ่มนี้จะเป็นเรื่องความต้องการแสงและใช้ประโยชน์อื่นๆที่แสลนสีดำทำไม่ได้ เช่น

🌸โรงดอกไม้ หรือกล้วยไม้กลางแจ้งโดยปกติจะใช้แสลน 60% สีดำ โดยให้แสงผ่านประมาณ 40% แต่เมื่อเข้าฤดูมรสุมแสลน 60% นั้นเส้นเทปยังมีความห่างพอสมควร ทำให้แรงลมในโรงเรือนต้นไม้มีความรุนแรงส่งผลให้ช่อหัก หรือดอกเสียหาย 🌬

🌦 กรณีเดียวกันถ้าเปลี่ยนเป็นแสลนสีเทา-เงินที่ความถี่ 80% เส้นเทปจะเรียงชิดแน่น แต่ยังให้แสงผ่าน 40% เท่ากัน เมื่อมีมรสุมเข้า ด้วยเส้นที่เรียงชิดแน่นช่วยลดแรงลมที่ผ่านเข้าโรงเรือน ป้องกันความเสียหายของสวนได้

️ขอบคุณผู้สนใจทุกท่านที่อ่านกันมาจนจบ สิ่งที่เราคิดไว้ตอนเริ่มเขียนบทความนี้ คือ “ควรรู้ก่อนซื้อ ดีกว่าซื้อแล้วรู้ที่หลัง”👍

💝เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความเล็กๆของเราจะช่วยต่อเติม และช่วยเหลือให้เกษตรกรที่ผู้ใช้งานลดภาระค่าอุปกรณ์ลง และสามารถแข่งขันได้

หากมีส่วนใดของบทความมีความสับสนไม่ชัดเจน สามารถคอมเม้นสอบถามเข้ามาได้เลย ทางเรามีทีมงานคอยให้ข้อมูล😘

แสลนตราฉลาม เป็นแสลนที่อยู่คู่กับเกษตรกรมากว่า 20 ปี ถูกพิสูนจ์มาตรฐาน และคุณภาพความทนทานมากอย่างยาวนาน

🛍หากต้องการสั่งซื้อสามารถสั่งได้ผ่านระบบออนไลน์

กดที่ลิ้งได้เลย http://bit.ly/2NEvKwL

🛒หากท่านต้องการสั่งซื้อแบบจำนวนมาก เป็นร้านค้า หรือต้องการนำสินค้าไปจำหน่ายต่อ 

กรุณาติดต่อฝ่ายขาย : 034-410-767 (6 คู่สาย)

Line ID : @kongsawat.com หรือผ่าน http://bit.ly/35I2jPe

Categories
คำแนะนำสินค้า ประฃาสัมพันธ์ ผู้ช่วยมือใหม่

ไม้ไผ่เทียม ไอเท็มลับของเกษตรชาวญี่ปุ่น

เมื่อมาลองนึกถึงสุดยอดเครื่องมืออเนกประสงค์ของชาวเกษตรกรแล้วคงหนีไม่พ้น ไม้ไผ่ มันอเนกประสงค์ชนิดที่ว่านำมาทำได้ตั้งแต่ค้างไม้เลื้อยยันเสาโรงเรือนกันเลย แต่พอมานึกถึงอายุการใช้งานของมันแล้วก็แสนสั้น บางครั้งเจอลมฝนเข้าไปเพียงฤดูกาลเดียวก็พากันกรอบจนเป็นปุ๋ยแทน แถมบางทีไม่วายกลายรังของแมลงที่คอยเข้ามากระหน่ำซ้ำให้พืชผักของเราให้ปวดหัวอีก ด้วยเหตุนี้ประเทศญี่ปุ่นจึงได้มีการพัฒนาอุปกรณ์วิเศษขึ้นโดยเลียนแบบความยืดหยุ่นและสุดอเนกประสงค์ของไม้ไผ่จนเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ไม้ค้างเหล็กเคลือบพลาสติก หรือบางคนก็จะเรียกว่า ไม้ไผ่เทียม

ข้อดีของไม้ค้างพลาสติกหรือไม้ไผ่เทียมคือ ความตรงที่แน่นอน น้ำหนักที่เบา และ ขนาดที่เล็ก นอกจากนี้ยังแข็งแรงทนนาน แถมยังมีวิธีการใช้งานที่หลากหลายเช่น

ใช้ทำไม้ค้ำไม้เลื้อย หรือ ไม้ค้างแตง

ขั้นตอนการทำไม้ค้างแตงจะใช้วิธีเดียวกันกับที่เราใช้ไม้ไผ่มาทำค้าง คือ ปักท่อนค้างดินเป็นแนวแทยงให้ปลายเข้าหากัน โดยที่ปลายของไม้ค้างพลาสติกจะมีด้านแหลมอยู่ เพียงกดด้านแหลมลงดินแท่งเสาไม้ค้ำก็จมลงดินได้อย่างง่ายดาย ส่วนตรงด้านหัวที่ไขว้กันไว้เพียงนำไม้ค้างพลาสติกอีกด้ามมาวางทับแล้วมัดให้แน่นเพื่อความแข็งแรงก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เพียงเท่านี้เราก็จะได้ไม้ค้างแตงพร้อมใช้งานได้ทันที

นอกจากนี้ไม้ค้างพลาสติกชนิดนี้ยังมีปุ่มพิเศษรอบ ๆ ตัววัสดุ ปุ่มเหล่านี้มีหน้าที่ช่วยให้เคลือของผักยึดจับและไม่หลุดตกลงมาได้ง่าย ๆ ต่างจากไม้ไผ่จริงที่เป็นปล้องกลมลื่น ๆ ทำให้เครือผักหลุดตกลงมาได้

ใช้ทำไม้ค้ำผัก

เนื่องจากไม้ไผ่เทียมหรือไม้ค้างเหล็กเคลือบพลาสติกมีความยาวให้เลือกหลากหลาย เราจึงสามารถเลือกรุ่นที่มีความยาวพอเหมาะมาใช้เป็นไม้ค้ำผักบนแปลงเพื่อช่วยพยุงผักของเราไม่ให้ล้มได้อีกด้วย

ใช้ทำเป็นไม้โครงทำอุโมงค์ผัก

นอกจากรุ่นแท่งตรงแล้ว เรายังมีรุ่นโค้งสำเร็จที่นำมาปักตามร่องแปลงเสร็จแล้วคลุมพลาสติกไว้ด้านบนเท่านั้นเราก็จะได้อุโมงค์แปลงผักที่ทำได้ง่าย ๆ และยังทนทานใช้ได้นานอีกด้วย

Categories
คำแนะนำสินค้า บทความ

ความเข้าใจผิด?

เกี่ยวกับพลาสติกโรงเรือน

เสียเวลา 5 นาที ดีกว่า เสียเงินเป็นหมื่น
แล้วไม่ได้ของที่ต้องการ😡😡
🌱 การปลูกพืชแบบเน้นคุณค่ามากกว่าปริมาณเป็นที่นิยม และแพร่หลายในประเทศไทยมาระยะหนึ่งแล้ว การใช้โรงเรือน(Greenhouse) จึงขยายตัวตามไปด้วย
☀️ หลายครั้งผู้ที่สนใจมักได้รับข้อมูลแปลกๆที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งทำให้เราเป็นกังวลมาก เพราะ ความเข้าใจผิดบางอย่าง เมื่อลงทุนไปแล้วแก้ไขได้ยาก เสียเงินซ้ำซ้อน บางอย่างส่งผลต่อพืชที่ปลูก ลงแรงไปก็มาก แต่กลับไม่ได้สิ่งที่ต้องการ
💡และเหมือนทุกๆครั้ง เพราะเราเชื่อว่า “ควรรู้ก่อนซื้อ ดีกว่าซื้อแล้วรู้ที่หลัง” เราจึงรวบรวมข้อมูลต่างๆแบบละเอียด เพื่อให้ผู้ซื้อ ผู้บริโภคได้ใช้งานแบบถูกต้อง ถูกลักษณะ ไม่เสียเงินซ้ำซ้อน

☀️ความเข้าใจผิดที่เราพบเจอบ่อยที่สุด คือ “พลาสติกกันแสง UV กี่ %”☀️

🌤เราคาดว่า น่าจะเกิดจากตัวเลข % ของสินค้า เช่น “พลาสติกโรงเรือน UV7%”  อาจทำให้ผู้อ่าน เข้าไปใจว่า พลาสติกโรงเรือนนี้ สามารถกรองแสง UV ได้ 7% ซึ่งไม่ถูกต้อง

🏡ในความเป็นจริงตัวเลข “UV7%” หมายถึง มีส่วนผสมของสารเพิ่มความทนทานต่อ UV (UV Resistant) ลงไปในเนื้อพลาสติก 7% มีผลให้พลาสติกทนทานสามารถใช้งานกลางแจ้งได้เป็นเวลานาน

☘️เช่น พลาสติกโรงเรือน UV3% กับพลาสติกโรงเรือน 7% พลาสติกโรงเรือนที่ผสมสารดังกล่าวมากกว่า ก็จะทนทานต่อแสงแดดได้ยาวนานกว่า (ถ้าพลาสติกนั้นผสมตามที่ระบุไว้จริงๆ)

“แล้วพลาสติกเราสามารถทำให้กรองแสง UV ได้จริงๆหรือไม่?”

😏คำตอบคือ “เราสามารถทำได้ครับ”

☝️โดยศัพท์ที่เราใช้กับพลาสติกที่กรองแสง UV ได้จริงๆจะเป็นคำประมาณนี้ครับ

  • 🌕 กันแสง UV (UV Block) หมายถึง พลาสติกสามารถปิดกั้นแสงในช่วงความถี่ 100-360 นาโนเมตรไม่ผ่านตัวพลาสติกได้
  • 🌖 สะท้อนแสง UV(UV Reflect) หมายถึง พลาสติกสามารถสะท้อนแสงในช่วงความถี่ 100-360 นาโนเมตรไม่ผ่านตัวพลาสติกได้
  • 🌗 ดูดซึมแสง UV (UV Absorber) หมายถึง พลาสติกมีสารที่ไวต่อแสง UV เมื่อมีแสงในช่วงคลื่น 100-300 นาโนเมตรเข้ามา ตัวสารเติมแต่งดังกล่าวจะดูดซึมไว้ แล้วสารดังกล่าวจะค่อยๆสลายไปตามการใช้งาน

ตัวพลาสติกอาจมีความสามารถกันแสงช่วงคลื่นที่แตกต่างกัน แล้วแต่สารเติมแต่งที่ผู้ผลิตใส่ลงไป

🌏 ในโลกนี้มีพลาสติกแบบนี้ขายจริงๆไหม “มีครับ” ในบ้านเราก็มีครับ จะเป็นพลาสติกจากญี่ปุ่น หรือยุโรปบางประเทศ แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก เพราะ ถือเป็นพลาสติกเฉพาะทาง มีผลต่อพืชหลากหลายแบบตามพันธุ์พืชที่ปลูก เช่น พืชบางพันธุ์ถ้าไม่มีแสงในช่วงคลื่น UV เลย จะไม่ออกสี สีไม่สวยก็ขายไม่ได้ เป็นต้น

ถ้าท่านต้องการพลาสติกชนิดนี้จริงๆ ควรศึกษารายละเอียดของพืชที่ปลูก และต้องขอเอกสารรับรองการปิดกั้นว่า ปิดช่วงคลื่นไหนได้บ้างก่อนการซื้อทุกครั้ง

🍎 เมื่อทีมเทคนิคเราอธิบายตามรูปไปแล้ว จะมีคำถามต่อมาทันที่ คือ “ถ้ามันไม่ได้กันแสง UV ทำไมต้นไม้ในโรงเรือนจึงโตดี แต่ด้านนอกโรงเรือนกับตายละ?”

🥦 แน่นอนว่าเราย่อมมีคำอธิบาย เหตุเกิดจาก “Light Transmission Ratio” หรือ “สัดส่วนแสงที่ส่องผ่านวัสดุ” พลาสติกโรงเรือนทั่วไปจะมีค่านี้อยู่ที่ 75%-90% เช่น 90% จะหมายถึง แสงมา 100 ผ่านเข้าโรงเรือนไป 90 อีก 10 จะถูกฟิลม์กันไว้ 

🍇ส่งผลให้แสงในทุกช่วงคลื่นไม่ว่าจะเป็น UV PAR และ IR ที่เข้าโรงเรือนมาน้อยลงทั้งหมด จึงเป็นคำอธิบายว่า “ทำไมต้นไม้ฉันถึงโตดีในโรงเรือน เพราะ โรงเรือนกรองแสงออกไปบางส่วนแล้ว แสงที่เหลือเข้ามาพอเหมาะกับต้นไม้พอดี แต่ข้างนอกอาจได้รับแสงมากเกินไป จึงตาย”

🔆ค่าดังกล่าวจะมาก-น้อยขึ้นกับปัจจัยต่อไปนี้

  • 🔅 ฝุ่น พลาสติกโรงเรือนเมื่อผ่านการใช้งาน ผ่านฝนมาอาจมีฝุ่นเกาะ ทำให้แสงผ่านได้น้อยลง
  • 🔅 วัตถุดิบ ถ้าเป็นวัตถุดิบที่ดี ไม่มีการปนเปื้อน จะมีค่าแสงผ่านที่ดี ถ้าเป็นวัตถุดิบที่ไม่ได้คัดมา อาจมีความขุ่นทำให้แสงผ่านได้น้อยลง

🐚 ต้นเรื่องจริงๆ ต้องย้อนเวลากลับไปประมาณ 10-15 ปีที่แล้ว ที่เราเพิ่งเริ่มคุ้นชินกับการใช้พลาสติกโรงเรือน

☄️ มีบริษัทจำนวนมากเข้ามาทำตลาด และบางบริษัทก็พยายามลดต้นทุนด้วยวิธีการนำเม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่ไม่ได้คุณภาพเข้ามาผสม พลาสติกที่ไม่ได้คุณภาพเหล่านี้จะมีเอกลักษณ์บางอย่างที่แก้ไขไม่ได้ คือ “ความขุ่น” 

🔥 และจากการแข่งขันทำให้มีการพูดเพื่อโจมตีคู่แข่งกันไปมา รวมถึงความขุ่น ความใสของเนื้อพลาสติก ทำให้มีความเชื่อว่า “พลาสติกที่ขุ่น เป็นพลาสติกที่ไม่ดี พลาสติกที่ดีต้องใส เงา เท่านั้น”

🔥🔥ซึ่งนั้นเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียวเมื่อ 10 ปีที่แล้ว🔥🔥

😏 ปัจจุบันเรื่องกลับตาลปัตรไปไกลมาก จากที่เกษตรกรเรามีการไปดูงานการเพาะปลูกพืชในแทบทะเลทราย(อิสราเอล) ซึ่งเค้ามีการใช้พลาสติกขุ่นที่ดูภายนอกก็เป็นพลาสติกขุ่นๆธรรมดา แต่กลับแฝงด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ในชื่อ “พลาสติกกระจายแสง : Diffused Film”😃

👍 จากนั้นจึงเริ่มมีการนำ พลาสติกโรงเรือนรุ่นกระจายแสงเข้ามาใช้งานในประเทศไทย ซึ่งมีคุณสมบัติพร่าแสง (Diffused) ให้แสงที่เข้ามาในโรงเรือนมีการกระจายตัวสว่างทั่วทั้งโรงเรือน ปัจจุบันเราสามารถผลิตและส่งออกได้แล้ว

นอกจากพลาสติกโรงเรือนที่มีคุณสมัติ Diffused แล้ว ในประเทศไทยมีการใช้พลาสติกโรงเรือนที่มีคุณสมบัติพิเศษอื่นๆอีกหลากหลายแบบ เช่น 

🌸ในพื้นที่ๆมีปริมาณฝนมาก และเกิดหยดน้ำเกาะบริเวณหลังคา พลาสติกที่มีคุณสมบัติผิวมันลื่น (Anti-dripping film)จะเข้าไปช่วยให้น้ำไม่เกาะตัว ลดการเกิดเชื้อราได้ดี

🌻ในพื้นที่ๆมีปริมาณการจราจรค่อนข้างเยอะ ฝุ่นไปเกาะโรงเรือนมากๆจนแสงผ่านน้อย ก็สามารถใช้พลาสติกโรงเรือนที่มีคุณสมบัติกันฝุ่นเกาะ (Anti-dusting film)ได้ เพื่อให้ง่ายต่อการดูแล

☃️ในพื้นที่ๆต้องการลดอุณหภูมิในโรงเรือนลง ก็สามารถใช้พลาสติกที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสงช่วงคลื่นอินฟาเรด (Cooling film) ลดช่วงคลื่นของแสงที่ไม่ต้องการเข้ามาในโรงเรือนได้

💪“หนาแล้วทนกว่าบางรึเปล่า?” “หนาเท่าไหร่ถึงจะดี?” เป็นคำถามเราเจอกันบ่อย แต่กลับเป็นคำถามที่ยากจะตอบ ส่วนหนึ่งเกิดจากความเข้าใจผิดของตัวคำถามเอง เช่น 

“พลาสติกหนา 200 ไมครอน ใช้ได้นานกว่า(หรือทนทาน) 100 ไมครอนใช่ไหม?🤔”

การตอบคำถามนี้ เราต้องแยกมาเป็นข้อๆก่อน

👆ความทนทานต่อแสงแดด ถ้าพลาสติกผสมสารเพิ่มความทนทานต่อ UV เท่ากัน ต่อให้ความหนาต่างกัน ความทนทานต่อแสงแดดย่อมไม่ต่างกันมากนัก 

คำถามที่ว่า “หนากว่า=ทนแดดได้นานกว่า” จึงไม่จริง🔴

✌️ความทนทานต่อแรงกระทำอื่นๆ เช่น แรงลม หนูแทะ ฝนตก ความร้อน ลูกเห็บ ความหนามีผลต่อแรงกระทำในส่วนนี้แน่นอน 

คำถามที่ว่า “หนากว่า=ทนพายุได้ดีกว่า” จึงเป็นจริง🟢

เวลาที่พิจารณาเรื่องความหนาจึงควรมองสภาพแวดล้อมที่ปลูก เช่น 

ปลูกในเมือง ลมไม่แรง มีตึกบัง จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้พลาสติกที่หนามากๆ แต่ถ้าเป็นกลางทุ่ง ลมแรง ไม่มีอะไรบังลมเลย สมควรใช้พลาสติกที่มีความหนาจึงจะเหมาะสม

💪ในเรื่องของความหนา คำถามถัดมาที่เราพบเจอ คือ 

“รอบที่แล้ว ผมซื้อพลาสติกหนา 150 ไมครอนมากจากเจ้าหนึ่ง….มันขาด รอบนี้ผมควรซื้อ 200 ไมครอนเลยไหมครับ?”🥺

คำตอบแบบจริงจัง แบบไม่อยากขายของเลย คือ “ผมก็ไม่รู้ครับ🤣” เนื่องจากผู้จำหน่ายพลาสติกบ้านเราให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านราคามาก โดยแทบไม่สนใจรายละเอียดด้านคุณสมบัติ และในความเป็นจริงเวลาที่ซื้อ-ขายกัน ตัวเราเองก็ไม่ค่อยสนใจ จึงเป็นเหตุให้คำถามนี้ตอบยากมากๆ

😥ผลลัพท์ของการไม่สนใจรายละเอียด คือ เราไม่รู้เลยว่าพลาสติกที่เราได้มานั้นมันดีหรือมันแย่ รู้แค่เราซื้อมาราคาไม่แพง(มั้ง🤨) เช่น

พลาสติกโรงเรือนเจ้า A ราคา 3,100 บาท รับแรงฉีกขาดได้ 300 Kgf/m.

พลาสติกโรงเรือนเจ้า B ราคา 3,000 บาท รับแรงฉีกขาดได้ 270 Kgf/m.

โดยพลาสติกโรงเรือนทั้ง 2 เจ้า มีความหนาเท่ากัน

ถ้าเราไม่มองปัจจัยอื่นๆเลย พลาสติกเจ้า B ย่อมดีกว่า แต่เมื่อมองปัจจัยอื่นๆ เราจะเริ่มมองว่า A ดีกว่า 

ลูกค้าซื้อพลาสติก B ที่ความหนา 100 ไมครอน มีพายุเข้า พลาสติกขาด แต่ถ้าลูกค้าซื้อพลาสติก A พายุลูกเดียวกัน อาจจะไม่ขาด เพราะสามารถรับแรงได้มากกว่า

คำตอบ ก็คือ เราควรขอเอกสารรับรองต่างๆมาเปรียบเทียบ เพื่อให้การซื้อของเราคุ้มค่าที่สุด

Categories
รายละเอียดสินค้า

ตัดหญ้าครั้งสุดท้ายที่ฝนนี้

ฝนเริ่มตก หญ้าเริ่มขึ้น สัตว์ร้ายก็เริ่มมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ๆไม่มีการเคลื่อนไหว พื้นที่รกร้าง ก็ยิ่งมีความเสี่ยงอันตราย 🌧

พลาสติกคลุมดำ กำจัดวัชพืช จะช่วยให้ปัญหานี้หายไปเลย(ยาวๆ 3-10 ปี;ตามรุ่น) ไม่ต้องคอยมาเสียค่าตัดหญ้าทุกๆปี ปีละหลายๆครั้ง
——————————————
🌱ให้หญ้า – เป็นปัญหาของเรา🌱
——————————————
ใช้งานง่าย เพื่อคลุมไว้ ปัญหาเรื่องหญ้าก็หมดไป

รุ่น ขนาด ความกว้าง ความยาว
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://bit.ly/2WocF2p

สั่งซื้อ online : http://bit.ly/30tlpp3

บ้าน #สวน #พื้นที่รกร้าง หรือ #แปลงเกษตร ที่ไม่มีการดูแล เมื่อผ่านเวลาไปนานวันเข้า ก็มีหญ้า หรือต้นไม้ขึ้นตามธรรมชาติ
แน่นอนเมื่อมีความร่มรื่น ก็ชวนให้มาอยู่อาศัย น่าเสียดายที่ผู้อยู่อาศัยชั่วคราวนี้ไม่เป็นที่ต้องการของที่รอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นสุนัขจร แมวจร จนไปถึงสัตว์อันตรายอย่าง 🐍 #งู 🐍 สร้างความลำบากให้แก่ผู้เป็นจำของที่ดิน
ตัดหญ้าครั้งนี้ เอาให้สุด ปรับพื้นที่ให้เรียบ 

เก็บงานวัชพืชที่ยังเหลือให้เรียบร้อย
หลังจากปรับพื้นที่เสร็จแล้ว เริ่มการปูผ้า ไม่ยาก แค่ปูแล้วตอกหมุด ผ้าก็จะอยู่แบบนั้นไปอีกนาน
ตัวผ้าเกิดจากการนำเส้นเทปมาทอเป็นผืน เส้นเทปแต่ละเส้นมีความแข็งแรงทนทาน แม้จะตัดไปบางส่วนเพื่อรับหน้างาน เส้นเทปที่เหลือก็ยังคงรูป และสามารถรับแรงเหยียบได้เป็นอย่างดี
บ้านไม่รก ดูสวยงาม ช่วยประหยัดค่าหญ้าปี ไม่สามารถความลำบากให้กับเจ้าของที่ 👍😏

รายละเอียดเพิ่มเติม : http://bit.ly/2WocF2p

สนใจสั่งซื้อ online : http://bit.ly/30tlpp3

สอบถามเพิ่มเติม @ ติดต่อเราได้เลย
034-410-767 (6 คู่สาย)
Line ID : @kongsawat.com หรือผ่าน http://bit.ly/35I2jPe

Categories
คำแนะนำสินค้า บทความ

อุโมงค์ แปลงผัก เพราะ ทุกที่ ปลูกได้

แปลงทดลองผลิตภัณฑ์ต่างๆของบริษัท ถูกท้าทายจากจอมตะกละเจ้าถิ่น ที่เดินน้ำลายไหลมาเป็นทาง

แต่สุดท้ายก็ ไม่ได้กินเราหรอก 🤣🤣

เพราะ เราปลูกในโครงอุโมงเตี้ย หรือ Low tunnels ซึ่งบางตำราก็ให้เป็นโรงเรือนขนาดเล็ก(mini greenhouses)

แปลงนี้ใช้อุปกรณ์ดังนี้
🌱 พลาสติกคลุมดิน กำจัดวัชพืช รุ่น EXTRA UV ปูพื้นกันหญ้าขึ้น ทำให้ไม่ต้องค่อยตัดหญ้า
🌾 กระบะปลูก ซามูไร รุ่น 1 เมตร ที่เป็นรุ่นเฉพาะสำหรับปลูกผักสลัด หรือพืชรากสั้นโดยเฉพาะ
🎋 ไม้ไผ่เทียม เหล็กขึ้นรูปแข็งแรงเคลือบพลาสติกกันสนิม ทั้งแบบแท่งตรงทำโครงกระบะ และแบบโค้ง สำหรับทำโครงมุ้งกันแมลง
🐾 มุ้งกันแมลงขนาด 16 ตา เพื่อให้ลมผ่านเข้าออกได้ดี ผักไม่ร้อนเกินไป
🧱 อิฐประสาน 14 ก้อน

ขั้นตอนการทำทั้งหมด ดูเรียงตามรูปได้เลย

อุโมงปลูกผักคืออะไร?

เป็นการปลูก โดยมีการควบคลุมสภาพแบบเล็กๆ โดยในต่างประเทศจะใช้เป็นพลาสติก เพื่อกันแมลง และให้เกิดความร้อนสะสม สร้างความอบอุ่นให้พืช

แต่ในไทยต้องใช้เป็นมุ้ง ที่สามารถกันแมลงได้ เพื่อให้สามารถระบายอากาศได้เนื่องจากอุณหภูมิเรามีความร้อนเพียงพอแล้ว
ทางเข้าอยู่ไหนเนี่ย ทำไมไม่ได้กินซะที
🌾 กระบะปลูก ซามูไร รุ่น 1 เมตร ที่เป็นรุ่นเฉพาะสำหรับปลูก
ผักสลัด หรือพืชรากสั้นโดยเฉพาะ
ขนาดรากของผักสลัดอยู่ที่ 15-20 เซน แล้วแต่พันธุ์ เราจึงออกแบบกระบะที่มีขนาด
พอดีกับพืช พร้อมทั้งเพิ่มหน้ากว้าง ให้ท่านปลูกได้มากขึ้นและปร
ะหยัดดินมากขึ้น
🎋 ไม้ไผ่เทียม แบบแท่งตรงทำโครงกระบะ และแบบโค้ง สำหรับทำโครงมุ้งกันแมลง
🌱 พลาสติกคลุมดิน กำจัดวัชพืช รุ่น EXTRA UV อายุการใช้งานกว่า 10 ปี ปูพื้นกันหญ้าขึ้น ทำให้ไม่ต้องดูแลมาก
หายห่วงเรื่องหญ้า ให้เรามีเวลาดูแลสวนมากขึ้น
🎋 ไม้ไผ่เทียม แบบแท่งตรงทำโครงกระบะ แข็งแรง ทนทาน เคลือบพลาสติกมาอย่างดี ทำให้ไว้กลางแจ้ง ไม่เป็นสนิม

ในการทำโครงกระบะสามารถใช้ว
ัสดุอื่นๆทดแทนได้ เช่น ไม้ไผ่จริง ท่อ PVC ท่อเหล็ก สามารถนำไปทำโต๊ะปลูกได้ ช่องสอดโครงได้ไม่เกิน 34 มิลลิเมตรนะครับ
🎋 ไม้ไผ่เทียมแบบโค้ง สำหรับทำโครงมุ้งกันแมลง ไม้ไผ่เทียมมีหลากหลายขนาด และรูปแบบ ทำให้สามารถประยุกต์ใช้ได้ไม่จบสิ้น

ในรูปจะเป็นโครงแท่งตรงที่ทำโครงกระบะ ส่วนด้านบนจะเป็นโครงโค้งสูง
170 เซนติเมตร (รหัส 45)
สำหรับอุโมงเตี้ย(ไม่เกิน 1 เมตร) ทางเราจะแนะนำเป็นมุ้งความถถี่ขนาด 16 ตา
เพื่อให้ลมผ่านเข้าออกได้ดี ผักไม่ร้อนเกินไป

ถ้าต้องการใช้มุ้งที่มีความถี่มากกว่านี้ อาจจะต้องทำโครงให้สูงขึ้น
หรือทำช่องระบายอากาศเผื่อไว้ เพื่อให้มีลมไหลเวียน ไม่งั้นผักอาจจะไม่โตได้

ในช่วงที่อากาศร้อนมาก อาจจะต้องนำฟางมาห่มดินไว้
เพื่อให้อุณหภูมิรากไม่สูงมากนัก
————————–
อุปกรณ์ชั้นเลิศจากเรา ผลงานชิ้นเอกของคุณ
————————–

แน่นอนในวันที่ท่านยังมีแรงอุปสรรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศัตรูพืช สภาพอากาศ ท่านสามารถผ่านไปได้ด้วยแรงกาย และความมุมานะ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ในวันที่ท่านค่อยๆโรยรา อุปสรรคเหล่านี้ไม่เคยโรยราไปพร้อมท่านแม้สักวินาทีเดียว

น่าจะดีกว่า ถ้ามีอุปกรณ์ชั้นเลิศ เสมือนเพื่อนที่ไม่ปล่อยเรา
ไว้ลำพัง แต่คอยช่วยเหลือ ทุ่นแรง ช่วยให้ท่านสร้างสรรค์ผลงาน
ชิ้นเอกแก่ลูกค้าของท่าน

ทางทีมงานจะพยามพัฒนาสินค้า
และบริการ รวมถึงนำเสนอบทต่อเรื่อยๆ ยังไงฝากกดแชร์เพื่อกำลังใจ
ให้ทีมงานด้วย

ขอบคุณครับ
Categories
รายละเอียดสินค้า

ไม่ใช่ทุกๆที่จะเอื้อต่อการเพาะปลูก บ้างที่เป็นดินทราย เป็นดินรุกรัง เป็นเขตเมืองไม่มีพื้นดิน หรือพื้นที่จำกัด จึงต้องใช้ภาชนะปลูก เพื่อให้สามารถทำการเพาะปลูกได้

และกระบะปลูก “ซามูไร” จะช่วยให้เรื่องต่างๆเหล่านี้ง่ายขึ้น

🌵 ใช้ปลูกพืชผักได้หลายชนิด
💦 ช่วยตัดตอนโรคติดต่อจากดินได้ดี
🌬 ระบายน้ำ และอากาศได้ดี ช่วยให้รากเดินไว ลดอาการรากเน่า
💪 ถุงมีความเหนียว ใช้งานง่าย รับน้ำหนักได้มากกว่า 100 กก.
☘️ ปลอดสารโลหะหนัก ปลอดภัยต้องแต่เริ่มปลูก
🌦 ผสมสารต้าน UV แบบพิเศษทนทาน นานถึง 5-8 ปี!!!

ขนาด 0.6×2.00×0.3 เมตร ราคาเพียง 235 บาท ส่งฟรี เก็บเงินปลายทางได้

ขนาดใหม่ 1.0×2.00×0.2 เมตร ราคาเพียง 295 บาท ส่งฟรี
ให้พื้นที่ปลูกที่มากขึ้น ใช้ดินน้อยลง เหมาะกับผักสลัดโดยเฉพาะ

ลดปัญหาเรื่องหญ้า แก้ปัญหาดิน เหมาะกับการปลูกพืชหลากหลายชนิด #ผักสลัด 🥗#ผักสวนครัว 🥬 #สตรอว์เบอร์รี่ 🍓 #เมล่อน 🍈 #มัน 🥔 #ผักบุ้ง  #พริก 🌶#กระชาย หรือพืชผักชนิดอื่นๆอีกมากมาย

🍎สั่งผ่าน LAZADA : http://bit.ly/31kWiVQ